วันที่ 29 มิถุนายน 2558
วันนี้ เหตุการณ์บางอย่างก็เกิดขึ้นซ้ำๆ กัน แต่เราจะติดตามเรื่องเด็กฉี่รดกางเกงกันต่อ ปัญหานี้แก้ยากมากเพราะคุณครูพยามยามทำทุกวิถีทางแล้ว น้องก็ยังเป็นเหมือนเดิม วันนี้เมื่อน้องมาถึง คุณครูก็เรียกน้องมาคุยก่อนเข้าห้องว่า "วันนี้นะ ถ้าหนูปวดฉี่แล้วไม่ไปห้องน้ำคุณครูจะทำโทษ" น้องก็พยักหน้ารับ แล้วเข้าห้องไป วันนี้คุณครูจะลองไม่บอกน้องให้ไปฉี่ ลองดูว่าน้องจะบอกคุณครู หรือน้องจะไปเข้าห้องน้ำเองโดยไม่บอกคุณครู ผลสุดท้ายเป็นเหมือนเดิมค่ะ น้องก็ฉี่รดกางเกงเหมือนเดิม วันนี้คุณครูจะลองทำโทษโดยวิธี เอาน้องใส่ลงในเครื่องซักผ้า แล้วพูดว่า "วันนี้คุณครูจะซักหนูแล้วนะ เพราะว่าหนูฉี่ใส่กางเกง คุณครูจะซักแห้งเธอ" แล้วคุณครูก็เปิดน้ำใส่ในเครื่องซักผ้าโดยไม่ปิดประตูน้ำ น้องไม่ยอมร้องไห้เลยค่ะ น้องนิ่งเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วหนูจะให้คุณครูทำยังไง ลองให้คุณครูอีกท่านทำโทษโดยการใช้ไม้ตีที่ฝ่ามือพอเจ็บ น้องร้องไห้ค่ะ พอน้องร้องไห้ คุณครูก็เข้ามาคุยอีก "เห็นไหมลูกคุณครูยายทำโทษแล้ว คราวหน้าเวลาหนูปวดฉี่ หนูเข้าห้องน้ำนะค่ะ" น้องพยักหน้ารับ เพราะน้องจะไม่ค่อยคุยกับคุณครูอยู่แล้ว ยังไงพรุ่งนี้เรามาติดตามกันใหม่อีกครั้ง
วันที่ 30 มิถุนายน 2558
วันนี้ เหตุการณ์ ปัญหาทุกๆอย่างเกิดซ้ำๆเช่นเคย แต่เรามาติดตามเด็กฉี่รดกางกางกันต่อ วันนี้น้องมาเรียนหน้าตายิ้มแย้ม สายๆมาพอจะทำกิจกรรมวาดภาพระบายสี น้องเห็นหน้าคุณครูตอนแจกกระดาษ คุณครูยังไม่พูดอะไรเลยหนูน้อยชอบฉี่รดกางเกงรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ คุณครูก็แอบดีใจแต่ก็ยังไม่ชะล่าใจเพราะนี่แค่พึ่งเริ่มต้น หลังจากกิจกกรมนี้เสร็จ หลังเวลารับประทานเด็กๆทุกคนต้องไปเข้าห้องน้ำก่อน น้องก็รีบไปเข้าห้องน้ำกับเพื่อนๆหรืออาจเป็นคุณครูยืนดูการเข้าห้องน้ำของเด็กก็ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ก็ถือว่าดีขึ้น ผ่านไปอีกวันสำหรับเรื่องนี้
วันที่ 1 กรกฎาคม 2558
วันนี้ ทุกอย่างในช่วงเช้าปกติดี พอสายๆคุณครูก็พาวาดภาพระบายสีอีกวัน และมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมีน้องคนนึงพอคุณครูแจกกระดาษน้องก็เอากระดาษม้วนๆ คุณครูเหลือบไปเห็นพอดี คุณครูเลยถามว่า"ม้วนกระดาษทำไมค่ะ เห็นไหมลูกเพื่อนๆเขาทำพากันระบายสีสวยงามเลย มาๆคุณครูจะพาทำนะ" แล้วคุณครูก็พาน้องระบายสี แล้วก็ปล่อยให้น้องทำเอง สักพักเอาอีกแล้วน้องไม่ทำงานแต่กลับม้วนกระดาษเล่นอีก เพราะน้องจะเป็นเด็กซนมากที่สุด คุณครูก็พูดว่า "หนูไม่ทำ หนูไม่อายเพื่อนหรือลูก เห็นไหมเพื่อนเขาทำกันทุกคนเลย" น้องไม่ตอบได้แต่ยิ้ม แล้วคุณครูก็พาทำอีกรอบ คาดโทษโดยพูดว่า "ถ้าหนูไม่ทำอีกคุณครูจะทำโทษหนู" สุดท้ายเด็กไม่ยอมทำแถมขยำกระดาษอีกต่างหาก เพราะเด็กคนนี้ชอบเล่นตลอดเวลาก็เป็นได้ คุณครูก็เลยใช้ไม้บรรทัดตีลงที่ฝ่ามือพอเจ็บ น้องร้องไห้ค่ะ "คุณครูบอกแล้วใช่ไหมค่ะ ว่าถ้าหนูไม่ทำคุณครูจะทำโทษ เจ็บไหมลูก" น้องพยักหน้าพลางร้องไห้พลาง คราวหน้าหนูจะแบบนี้อีกไหม น้องตอบว่า "ไม่ทำครับ" ตกลงกันเรียบร้อย เด็กที่ชอบฉี่รดกางเกงเอาอีกแล้วค่ะ ระบายสีเพลินเลยไม่ยอมเข้าห้องน้ำ คุณครูลองทำโทษเหมือนเดิมอีกครั้ง คือเอาลงเครื่องซักผ้า แล้วใช้ไม้บรรทัดตีที่ฝ่ามือด้วย น้องร้องไห้ "จำได้ไหมค่ะเราตกลงกันว่ายังไง ที่คุณครูทำโทษหนูเพราะคุณครูอยากให้หนูเป็นคนเก่งนะลูก คราวหน้าหนูจะทำแบบนี้อีกไหมค่ะ" น้องส่ายหน้า คุณครูจะลองสอบถามผู้ปกครองอีกครั้งว่าอยู่ที่บ้านน้องเป็นอย่างไร
วันที่ 2 กรกฎาคม 2558
วันนี้ ผู้ปกครองที่ไม่มีลูกหลานอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กขับรถผ่านมาเห็นลูกของเพื่อนร่วมงานออกไปยืนตากแดด ก็เลยไปฟ้องพ่อแม่เขาแบบใส่ไฟ (เพราะเพื่อนร่วมสำนักงานเขามาเล่าให้ฟัง)ทำให้ผู้ปกครองเด็กไม่พอใจ เขารีบมารับลูกเร็วผิดปกติ หลังเลิกเรียนคุณครูก็เลยไปพบผู้ปกครองถึงบ้านเล่าถึงสาเหตุให้ฟังว่าน้องเดินตามคุณครูไปเข้าห้องน้ำ ช่วงที่คุณครูอยู่ในห้องน้ำน้องออกมาเดินในช่วงเวลาที่ผู้ปกครองคนนั้นขับรถผ่านมาพอดี พอคุณครูออกจากห้องน้ำก็เลยตามมาเรียกให้เข้าห้อง ผู้ปกครองเด็กก็เข้าใจ เรามาดูวันพรุ่งนี้กันนะ
วันที่ 3 กรกฎาคม 2558
วันนี้ ผู้ปกครองรายเมื่อวาน ก็นำเด็กมาเรียนตามปกติ คุณครูก็เลยต้องระมัดระวังทุกฝีก้าว ไม่เช่นนั้นจะมีเรื่องจุกจิกทำให้การทำงานของเราไม่ราบรื่น
บันทึกสะท้อนคิดของนางอัญชรีย์ อินทร์ทองแดง
วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558
วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิด วันที่ 22-26 มิถุนายน 2558
วันที่ 22 มิถุนายน 2558
วันนี้ มีเด็กชายเต้ (นามสมมุติ) น้องพึ่งหยุดร้องไห้เวลามาเรียน มาสัปดาห์นี้ ผู้ปกครองมาส่งน้องไม่ร้องไห้แล้ว และความซนก็เข้ามาแทนที่ เหมือนจะคุยรู้เรื่องแต่ก็ไม่เข้าใจว่าที่คุณครูพูดไปน้องเข้าใจไหม น้องชอบเดินเลาะไปไหนมาไหน ชอบไปเปิดก็อกน้ำเล่น เวลาคุณครูเรียกให้เข้าห้อง น้องก็เฉย ทำเป็นไม่สนใจ แต่น้องเป็นเด็กช่างพูดช่างคุยไงค่ะ คุณครูเลยเข้าใจว่าน้องน่าจะเข้าใจอะไรง่ายๆ พอคุณครูเรียกไม่มา คุณครูก็ไปจูงมือเพื่อให้เข้าห้อง น้องก็ฝืนเราไม่ยอมเข้าห้อง พอคุณครูดึงแขนอีกรอบน้องกลับร้องไห้ อ้าว!ทำไมเป็นซะงั้นหล่ะ คุณครูตั้งคำถามกับตัวเอง เป็นอาการแบบนี้ทั้งวันจนเลิกเรียน แกไม่ยอมนั่งไม่ยอมนิ่ง กรณีเช่นนี้ดิฉันไม่ออกเลยวันนี้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร พรุ่งนี้ลองวิธีนี้ดีกว่า
วันที่ 23 มิถุนายน 2558
วันนี้ เมื่อน้องเต้มาถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ก็ทักทายคุณครู "สวัสดีครับ" แล้วก็เดินๆๆๆ คุณครูจึงพูดว่า "น้องเต้มานั่งก่อนรอเพื่อนๆมาเยอะแล้วคุณครูจะพาไปสนามเด็กเล่น" น้องเต้มองหน้าคุณครูแล้วเดินหนี คุณครูก็เลยปล่อยน้องไปก่อนเพราะต้องต้อนรับเด็กคนอื่นๆอีก พอเด็กๆมาจนครบแล้ว คุณครูก็พาไปสนามเด็กเล่น น้องก็เล่นแรงนะ คุณครูก็บอก "น้องเต้เบาๆลูก" น้องมองหน้าคุณครูแล้วเล่นต่อโดยไม่สนใจคำพูดใดๆของคุณครู สักพักน้องก็วิ่งไปด้านหลังห้องไปเปิดน้ำล้างมือ คุณครูก็เดินตามไปดูห่าง ปรากฏว่า น้องเล่นน้ำเอามืออุดก๊อกน้ำเพื่อให้น้ำกระเด็นใส่สนุกสนานมาก คุณครูก็เลยเดินเข้ามาพูดกับน้องว่า "น้องเต้เล่นน้ำทำไม เห็นไหมค่ะเปียกหมดเลย หลายรอบแล้วนะน้องเต้ วันนี้ต้องทำโทษกันหน่อยหล่ะ" พูดเสร็จคุณครูก็ไปหยิบไม้บรรทัดตีลงที่ฝ่ามือ น้องร้องไห้เสียงดังมาก คุณครูก็บอกกับน้องว่า "คราวหน้าน้องเต้ไม่มาเปิดก๊อกน้ำเล่นอีกแล้วนะ ถ้าน้องเต้มาเล่นอีกคุณครูจะทำโทษแบบนี้อีก เข้าใจไหมค่ะ" น้องพยักหน้าตอบรับ ผลที่ออกมาคือ ในวันนี้น้องเต้ไม่ไปเปิดก๊อกน้ำ ไม่เดินไปไหนมาไหนตามชอบใจอีกเลย ได้ผลค่ะ แสดงว่าที่บ้านน้องไม่เคยทำโทษเลย
วันที่ 24 มิถุนายน 2558
วันนี้ มีเหตุการณ์เดิมๆเกิดขึ้นเช่น ผู้ปกครองที่ไม่ค่อยมาส่งลูกเพราะลูกร้องไห้ คุณครูก็ตัดสินใจพูดแบบเด็ดขาดว่า "ถ้ากลัวลูกร้องไห้ก็ไม่ต้องเอามาก็ได้นะค่ะ" รีบตอบใหญ่เลยกลัวคุณครูจะไม่รับ "เอามาค่ะ จะเอาน้องมาเรียนที่นี่หล่ะค่ะ" วันนี้แก้ปัญหาง่ายหน่อย สุดท้ายผู้ปกครองก็รีบปล่อยลูกให้ครู
วันที่ 25 มิถุนายน 2558
วันนี้ ช่วงเช้าคุณครูกำลังรับเด็กๆ ก็ปัญหาเด็กดื้อค่ะ ชอบวิ่งหยอกล้อกัน คุณครูก็คอยปรามว่า "อย่าวิ่งนะลูกเดี๋ยวชนกัน" เผลอแป๊บเดียว ชนแล้วค่ะ ร้องไห้ทั้งคู่ คุณครูก็เลยจับทั้งคู่มาถาม "เมื่อตะกี้คุณครูเตือนแล้วใช่หรือไม่ค่ะ ว่าไม่ให้วิ่งเดี๋ยวชนกัน ใช่ไหมลูก" ทั้งสองตอบว่า "ใช่ครับ"คุณครูถามต่อค่ะ "แล้วทำไมยังวิ่งหล่ะค่ะ ถ้าพูดไม่ฟังแบบนี้ คุณครูจะทำโทษแล้วนะ" คุณครูเอาเก้าอี้ตัวใหญ่มา 2 ตัว ให้เด็กทั้งสองคนขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ เป็นเวลา 20 นาที ทั้งยืนทั้งร้องไห้ แล้วก็เรียกเพื่อนๆ ทั้งหมดมายืนฟังด้วยกัน คุณครูพูดว่า "เห็นไหมค่ะเด็กๆ นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เด็กๆควรเอาแบบอย่างไหมค่ะ" เด็กๆตอบว่า "ไม่ค่ะ ไม่ครับ" คุณครูตอบว่า "เก่งมากค่ะ เพราะฉะนั้นเรามาสัญญากันนะค่ะ ว่าจะไม่วิ่งหยอกล้อกันในห้องเรียนอีก ตกลงไหมค่ะ" เด็กๆพากันตอบ "ตกลงค่ะ ตกลงครับ" หลังจากทำโทษเสร็จแล้วเด็กๆทุกคนไม่มีใครกล้าวิ่งอีกเลย เพราะกลัวจะได้ยืนบนเก้าอี้ ผลตอบรับดีเช่นกันนะค่ะวันนี้
วันที่ 26 มิถุนายน 2558
วันนี้ ผู้ปกครองก็พากันมาส่งลูกตามปกติ และมีผู้ปกครองใจดี นำขนมมาแจกเด็กๆด้วย "ขอบคุณนะค่ะ" ปัญหาวันนี้มีเด็กหญิงที่มาเรียนตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนบัดนี้เธอไม่ชอบไปห้องน้ำ ฉี่รดกางเกงทุกวัน ไม่บอกคุณครู คุณครูทำโทษแล้วก็เหมือนเดิม พูดทุกวัน คุณครูก็พยามยามพาไปให้แกรู้จัก พอวันไหนคุณครูเผลอไม่พาไปเด็กก็ฉี่รดกางเกงอีก วันนี้คุณครูตัดสินใจทำเป็นว่าเอาขังห้องน้ำ แต่เปิดประตูแง้มๆไว้นิดนึง ผลปรากฏว่าเด็กสะอื้นไม่เสียงดัง และถึงแม้ว่าประตูจะแง้มอยู่เด็กก็ไม่เปิด คุณครูแอบดูสักพัก เห็นว่าเด็กนิ่งๆ ก็เลยเปิดประตูออกดู กรกฎว่า เด็กหยุดร้องแล้วยืนเฉยๆ คุณครูพูดว่า "จำเอาไว้นะลูกนี่คือห้องน้ำ เวลาหนูปวดฉี่ ให้หนูมาฉี่ในห้องน้ำนะค่ะ" ไม่ตอบรับใดๆค่ะ เด็กไม่พูดอะไร หลังจากทำโทษเสร็จไปรับประทานอาหารเด็กก็นั่งฉี่อีกรอบ สรุปแล้ววันนี้แก้ปัญหายังไม่ได้ค่ะ สัปดาห์หน้าลองหาวิธีใหม่นะค่ะ เพราะทดสอบหลายวิธีแล้วเด็กก็ยังเป็นเหมือนเดิม
วันนี้ มีเด็กชายเต้ (นามสมมุติ) น้องพึ่งหยุดร้องไห้เวลามาเรียน มาสัปดาห์นี้ ผู้ปกครองมาส่งน้องไม่ร้องไห้แล้ว และความซนก็เข้ามาแทนที่ เหมือนจะคุยรู้เรื่องแต่ก็ไม่เข้าใจว่าที่คุณครูพูดไปน้องเข้าใจไหม น้องชอบเดินเลาะไปไหนมาไหน ชอบไปเปิดก็อกน้ำเล่น เวลาคุณครูเรียกให้เข้าห้อง น้องก็เฉย ทำเป็นไม่สนใจ แต่น้องเป็นเด็กช่างพูดช่างคุยไงค่ะ คุณครูเลยเข้าใจว่าน้องน่าจะเข้าใจอะไรง่ายๆ พอคุณครูเรียกไม่มา คุณครูก็ไปจูงมือเพื่อให้เข้าห้อง น้องก็ฝืนเราไม่ยอมเข้าห้อง พอคุณครูดึงแขนอีกรอบน้องกลับร้องไห้ อ้าว!ทำไมเป็นซะงั้นหล่ะ คุณครูตั้งคำถามกับตัวเอง เป็นอาการแบบนี้ทั้งวันจนเลิกเรียน แกไม่ยอมนั่งไม่ยอมนิ่ง กรณีเช่นนี้ดิฉันไม่ออกเลยวันนี้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร พรุ่งนี้ลองวิธีนี้ดีกว่า
วันที่ 23 มิถุนายน 2558
วันนี้ เมื่อน้องเต้มาถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ก็ทักทายคุณครู "สวัสดีครับ" แล้วก็เดินๆๆๆ คุณครูจึงพูดว่า "น้องเต้มานั่งก่อนรอเพื่อนๆมาเยอะแล้วคุณครูจะพาไปสนามเด็กเล่น" น้องเต้มองหน้าคุณครูแล้วเดินหนี คุณครูก็เลยปล่อยน้องไปก่อนเพราะต้องต้อนรับเด็กคนอื่นๆอีก พอเด็กๆมาจนครบแล้ว คุณครูก็พาไปสนามเด็กเล่น น้องก็เล่นแรงนะ คุณครูก็บอก "น้องเต้เบาๆลูก" น้องมองหน้าคุณครูแล้วเล่นต่อโดยไม่สนใจคำพูดใดๆของคุณครู สักพักน้องก็วิ่งไปด้านหลังห้องไปเปิดน้ำล้างมือ คุณครูก็เดินตามไปดูห่าง ปรากฏว่า น้องเล่นน้ำเอามืออุดก๊อกน้ำเพื่อให้น้ำกระเด็นใส่สนุกสนานมาก คุณครูก็เลยเดินเข้ามาพูดกับน้องว่า "น้องเต้เล่นน้ำทำไม เห็นไหมค่ะเปียกหมดเลย หลายรอบแล้วนะน้องเต้ วันนี้ต้องทำโทษกันหน่อยหล่ะ" พูดเสร็จคุณครูก็ไปหยิบไม้บรรทัดตีลงที่ฝ่ามือ น้องร้องไห้เสียงดังมาก คุณครูก็บอกกับน้องว่า "คราวหน้าน้องเต้ไม่มาเปิดก๊อกน้ำเล่นอีกแล้วนะ ถ้าน้องเต้มาเล่นอีกคุณครูจะทำโทษแบบนี้อีก เข้าใจไหมค่ะ" น้องพยักหน้าตอบรับ ผลที่ออกมาคือ ในวันนี้น้องเต้ไม่ไปเปิดก๊อกน้ำ ไม่เดินไปไหนมาไหนตามชอบใจอีกเลย ได้ผลค่ะ แสดงว่าที่บ้านน้องไม่เคยทำโทษเลย
วันที่ 24 มิถุนายน 2558
วันนี้ มีเหตุการณ์เดิมๆเกิดขึ้นเช่น ผู้ปกครองที่ไม่ค่อยมาส่งลูกเพราะลูกร้องไห้ คุณครูก็ตัดสินใจพูดแบบเด็ดขาดว่า "ถ้ากลัวลูกร้องไห้ก็ไม่ต้องเอามาก็ได้นะค่ะ" รีบตอบใหญ่เลยกลัวคุณครูจะไม่รับ "เอามาค่ะ จะเอาน้องมาเรียนที่นี่หล่ะค่ะ" วันนี้แก้ปัญหาง่ายหน่อย สุดท้ายผู้ปกครองก็รีบปล่อยลูกให้ครู
วันที่ 25 มิถุนายน 2558
วันนี้ ช่วงเช้าคุณครูกำลังรับเด็กๆ ก็ปัญหาเด็กดื้อค่ะ ชอบวิ่งหยอกล้อกัน คุณครูก็คอยปรามว่า "อย่าวิ่งนะลูกเดี๋ยวชนกัน" เผลอแป๊บเดียว ชนแล้วค่ะ ร้องไห้ทั้งคู่ คุณครูก็เลยจับทั้งคู่มาถาม "เมื่อตะกี้คุณครูเตือนแล้วใช่หรือไม่ค่ะ ว่าไม่ให้วิ่งเดี๋ยวชนกัน ใช่ไหมลูก" ทั้งสองตอบว่า "ใช่ครับ"คุณครูถามต่อค่ะ "แล้วทำไมยังวิ่งหล่ะค่ะ ถ้าพูดไม่ฟังแบบนี้ คุณครูจะทำโทษแล้วนะ" คุณครูเอาเก้าอี้ตัวใหญ่มา 2 ตัว ให้เด็กทั้งสองคนขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ เป็นเวลา 20 นาที ทั้งยืนทั้งร้องไห้ แล้วก็เรียกเพื่อนๆ ทั้งหมดมายืนฟังด้วยกัน คุณครูพูดว่า "เห็นไหมค่ะเด็กๆ นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เด็กๆควรเอาแบบอย่างไหมค่ะ" เด็กๆตอบว่า "ไม่ค่ะ ไม่ครับ" คุณครูตอบว่า "เก่งมากค่ะ เพราะฉะนั้นเรามาสัญญากันนะค่ะ ว่าจะไม่วิ่งหยอกล้อกันในห้องเรียนอีก ตกลงไหมค่ะ" เด็กๆพากันตอบ "ตกลงค่ะ ตกลงครับ" หลังจากทำโทษเสร็จแล้วเด็กๆทุกคนไม่มีใครกล้าวิ่งอีกเลย เพราะกลัวจะได้ยืนบนเก้าอี้ ผลตอบรับดีเช่นกันนะค่ะวันนี้
วันที่ 26 มิถุนายน 2558
วันนี้ ผู้ปกครองก็พากันมาส่งลูกตามปกติ และมีผู้ปกครองใจดี นำขนมมาแจกเด็กๆด้วย "ขอบคุณนะค่ะ" ปัญหาวันนี้มีเด็กหญิงที่มาเรียนตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนบัดนี้เธอไม่ชอบไปห้องน้ำ ฉี่รดกางเกงทุกวัน ไม่บอกคุณครู คุณครูทำโทษแล้วก็เหมือนเดิม พูดทุกวัน คุณครูก็พยามยามพาไปให้แกรู้จัก พอวันไหนคุณครูเผลอไม่พาไปเด็กก็ฉี่รดกางเกงอีก วันนี้คุณครูตัดสินใจทำเป็นว่าเอาขังห้องน้ำ แต่เปิดประตูแง้มๆไว้นิดนึง ผลปรากฏว่าเด็กสะอื้นไม่เสียงดัง และถึงแม้ว่าประตูจะแง้มอยู่เด็กก็ไม่เปิด คุณครูแอบดูสักพัก เห็นว่าเด็กนิ่งๆ ก็เลยเปิดประตูออกดู กรกฎว่า เด็กหยุดร้องแล้วยืนเฉยๆ คุณครูพูดว่า "จำเอาไว้นะลูกนี่คือห้องน้ำ เวลาหนูปวดฉี่ ให้หนูมาฉี่ในห้องน้ำนะค่ะ" ไม่ตอบรับใดๆค่ะ เด็กไม่พูดอะไร หลังจากทำโทษเสร็จไปรับประทานอาหารเด็กก็นั่งฉี่อีกรอบ สรุปแล้ววันนี้แก้ปัญหายังไม่ได้ค่ะ สัปดาห์หน้าลองหาวิธีใหม่นะค่ะ เพราะทดสอบหลายวิธีแล้วเด็กก็ยังเป็นเหมือนเดิม
วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิดวันที่ 15-19 มิถุนายน 2558
วันที่ 15 มิถุนายน 2558
วันนี้ ผู้ปกครองเด็กรายใหม่ มาส่งน้องเพราะสาเหตุ สงสารลูก แล้วไม่มาส่งลูก เพราะลูกร้องไห้ เฮ้อ! ปัญหานี้แก้ยากนะ จะต้องให้พูดยังไงดีค่ะ แต่คุณครูจำเป็นต้องพูดคำซ้ำๆ ว่า "ต่อไปนี้ต้องมาส่งน้องให้คุณครูทุกวันนะค่ะ เพราะเพื่อนๆเขาหยุดร้องไห้กันหมดแล้ว" ผู้ปกครองก็รับปากกับคุณครู คุณครูพูดเสริมอีกว่า "มาส่งแล้วให้รีบกลับเลย ไม่ต้องอยู่กับน้องนานๆนะค่ะ" ผู้ปกครองก็รับปากอีก เรามาติดตามกันนะค่ะ วันพรุ่งนี้ค่ะ
วันที่ 16 มิถุนายน 2558
วันนี้ ผู้ปกครองรายเดิมมาส่งลูก ยื่นเด็กให้คุณครูแล้วรีบกลับบ้าน ผู้ปกครองน่ารักมากค่ะ เยี่ยมที่สุด และปัญหาในวันนี้ เด็กไม่ยอมนอนกลางวันตั้งแต่เปิดเทอมมา เด็กจะสะพายกระเป๋า ถือที่นอน ไม่ยอมกินข้าว เตรียมพร้อมที่จะกลับบ้านตลอดเวลา และไม่ยอมนอนกลางวัน คุณครูพูดยังไงก็ไม่ฟัง พูดดีก็แล้ว ปลอบใจก็แล้ว คุณครูใจดีมาหลายสัปดาห์แล้วนะ วันนี้คุณครูจะแปลงร่างเป็นยักษ์ โดยยึดกระเป๋า ที่นอน ของน้องไปซ่อน น้องก็ร้องไห้ คุณครูอีกคนเป็นคนมาปลอบใจว่า "น้องเงียบก่อนนะค่ะ คุณครูจะช่วยตามหากระเป๋ากับที่นอน" คุณครูทำเป็นพาน้องเดินตามหาพลางปลอบใจพลาง พอถึงเวลานอนคุณครูก็ทำท่าว่า "น้องคุณครูหาเจอแล้ว น้องมานอนไว้นะค่ะ เดี๋ยวครูยายจะเอาไปซ่อนอีก" ก็ให้เด็กนอนแล้วบอกว่า "กอดกระเป๋าแล้วหลับตาไว้นะเดี๋ยวครูยายจะมาเอาไปซ่อนอีก" และแล้วความเหนื่อยที่ต้องพูดกับน้องก็เห็นผลคือ น้องยอมที่จะนอนกลางวันค่ะ และเรามาติดตามวันพรุ่งนี้อีกนะค่ะว่าผลจะเป็นอย่างไร
วันที่ 17 มิถุนายน 2558
วันนี้ ก็มีกรณีเดิมๆ นะ เด็กที่ชอบสะพายกระเป๋า เอาอีกแล้ว ครูก็ใช้มาตรการเดิม คือ ยึดกระเป๋าและที่นอน พอถึงเวลา ครูก็ใช้แผนเดิม แต่วันนี้แผลงฤทธิ์ไม่ยอมนอน เฮ้อ!คุณครูหล่ะเหนื่อยใจ พรุ่งนี้ลองใหม่ ถ้าไม่ได้ผลเราจะใช้แผนใหม่กัน
วันที่ 18 มิถุนายน 2558
วันนี้ เด็กที่ชอบสะพายกระเป๋า เอาอีกแล้ว คุณครูก็ยึดเหมือนเดิม วันนี้ดีขึ้นหน่อย ยอมกินข้าว ยอมที่จะนอน สบายไปเปราะหนึ่งแล้ว และก็มีปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นคือเด็กที่ไม่ยอมฟังคุณครู เอาแต่ใจตัวเองเพราะน้องถูกตามใจ ชอบกรี๊ด ชอบเดินไปที่ไหนๆ โดยไม่สนใจเสียงเรียกของคุณครู ยากมากสำหรับปัญหานี้ คุณครูทดสอบโดยเปิดสารคดีงูให้น้องดู และพูดแนะนำน้องว่า "ทีหลังไม่เดินไปคนเดียวนะ เห็นไหมค่ะ น้องกลัวไหม อันตรายมาก" น้องตอบว่า "กลัว" คุณครูพูดต่ออีกว่า "ถ้ากลัวน้องอย่าเดินไปไหนมาไหนคนเดียวนะค่ะ เข้าใจไหม"นี่คือการแก้ปัญหาเบื้องต้น แต่ยังไม่ทราบว่าผลจะเป็นอย่างไร พรุ่งนี้เรามาติดตามกันอีกนะค่ะ
วันที่ 19 มิถุนายน 2558
วันนี้ มาแล้วน้องคนเก่งชอบเดินไปไหนมาไหนตามใจชอบ คุณครูก็พูดทบทวนกับน้องอีกรอบ "น้องจำได้ไหมค่ะ เมื่อวานคุณครูพาดูงู วันนี้น้องไม่ไปคนเดียวอีกนะค่ะ มันน่ากลัวใช่ไหม" คุณครูตั้งคำถามอีกรอบ น้องรีบตอบตามประสาเด็กฉลาด "วันนี้น้องไม่ไปหรอก" พอสักพักคุณครูเผลอ ไปแล้ว เดินดุ่มๆไปอีกแล้ว น้องเดินไปสนามเด็กเล่นคนเดียว คุณครูรีบวิ่งไปปราม พร้อมทวนคำถาม "น้องไม่กลัวงูแล้วหรือค่ะ ถ้าคุณครูไม่พามาน้องห้ามมาคนเดียวเด็ดขาดนะค่ะ สาเหตุที่คุณครูไม่อยากให้มา เห็นไหมลูกแดดร้อนก็ร้อน เดี๋ยวจะไม่สบาย พอไม่สบายก็ต้องไปหาหมอ ไปหาหมอต้องฉีดยาด้วย น้องกลัวหมอฉีดยาไหมลูก" น้องบอกว่ากลัว "เราไปร้องเพลงกันดีกว่านะค่ะ" คุณครูรู้ว่าน้องชอบการร้องเพลง การเต้น ต้องชักแม่น้ำทั้งห้าเลย เอาคุณครูเหนื่อยนะ
วันนี้ ผู้ปกครองเด็กรายใหม่ มาส่งน้องเพราะสาเหตุ สงสารลูก แล้วไม่มาส่งลูก เพราะลูกร้องไห้ เฮ้อ! ปัญหานี้แก้ยากนะ จะต้องให้พูดยังไงดีค่ะ แต่คุณครูจำเป็นต้องพูดคำซ้ำๆ ว่า "ต่อไปนี้ต้องมาส่งน้องให้คุณครูทุกวันนะค่ะ เพราะเพื่อนๆเขาหยุดร้องไห้กันหมดแล้ว" ผู้ปกครองก็รับปากกับคุณครู คุณครูพูดเสริมอีกว่า "มาส่งแล้วให้รีบกลับเลย ไม่ต้องอยู่กับน้องนานๆนะค่ะ" ผู้ปกครองก็รับปากอีก เรามาติดตามกันนะค่ะ วันพรุ่งนี้ค่ะ
วันที่ 16 มิถุนายน 2558
วันนี้ ผู้ปกครองรายเดิมมาส่งลูก ยื่นเด็กให้คุณครูแล้วรีบกลับบ้าน ผู้ปกครองน่ารักมากค่ะ เยี่ยมที่สุด และปัญหาในวันนี้ เด็กไม่ยอมนอนกลางวันตั้งแต่เปิดเทอมมา เด็กจะสะพายกระเป๋า ถือที่นอน ไม่ยอมกินข้าว เตรียมพร้อมที่จะกลับบ้านตลอดเวลา และไม่ยอมนอนกลางวัน คุณครูพูดยังไงก็ไม่ฟัง พูดดีก็แล้ว ปลอบใจก็แล้ว คุณครูใจดีมาหลายสัปดาห์แล้วนะ วันนี้คุณครูจะแปลงร่างเป็นยักษ์ โดยยึดกระเป๋า ที่นอน ของน้องไปซ่อน น้องก็ร้องไห้ คุณครูอีกคนเป็นคนมาปลอบใจว่า "น้องเงียบก่อนนะค่ะ คุณครูจะช่วยตามหากระเป๋ากับที่นอน" คุณครูทำเป็นพาน้องเดินตามหาพลางปลอบใจพลาง พอถึงเวลานอนคุณครูก็ทำท่าว่า "น้องคุณครูหาเจอแล้ว น้องมานอนไว้นะค่ะ เดี๋ยวครูยายจะเอาไปซ่อนอีก" ก็ให้เด็กนอนแล้วบอกว่า "กอดกระเป๋าแล้วหลับตาไว้นะเดี๋ยวครูยายจะมาเอาไปซ่อนอีก" และแล้วความเหนื่อยที่ต้องพูดกับน้องก็เห็นผลคือ น้องยอมที่จะนอนกลางวันค่ะ และเรามาติดตามวันพรุ่งนี้อีกนะค่ะว่าผลจะเป็นอย่างไร
วันที่ 17 มิถุนายน 2558
วันนี้ ก็มีกรณีเดิมๆ นะ เด็กที่ชอบสะพายกระเป๋า เอาอีกแล้ว ครูก็ใช้มาตรการเดิม คือ ยึดกระเป๋าและที่นอน พอถึงเวลา ครูก็ใช้แผนเดิม แต่วันนี้แผลงฤทธิ์ไม่ยอมนอน เฮ้อ!คุณครูหล่ะเหนื่อยใจ พรุ่งนี้ลองใหม่ ถ้าไม่ได้ผลเราจะใช้แผนใหม่กัน
วันที่ 18 มิถุนายน 2558
วันนี้ เด็กที่ชอบสะพายกระเป๋า เอาอีกแล้ว คุณครูก็ยึดเหมือนเดิม วันนี้ดีขึ้นหน่อย ยอมกินข้าว ยอมที่จะนอน สบายไปเปราะหนึ่งแล้ว และก็มีปัญหาใหม่เพิ่มขึ้นคือเด็กที่ไม่ยอมฟังคุณครู เอาแต่ใจตัวเองเพราะน้องถูกตามใจ ชอบกรี๊ด ชอบเดินไปที่ไหนๆ โดยไม่สนใจเสียงเรียกของคุณครู ยากมากสำหรับปัญหานี้ คุณครูทดสอบโดยเปิดสารคดีงูให้น้องดู และพูดแนะนำน้องว่า "ทีหลังไม่เดินไปคนเดียวนะ เห็นไหมค่ะ น้องกลัวไหม อันตรายมาก" น้องตอบว่า "กลัว" คุณครูพูดต่ออีกว่า "ถ้ากลัวน้องอย่าเดินไปไหนมาไหนคนเดียวนะค่ะ เข้าใจไหม"นี่คือการแก้ปัญหาเบื้องต้น แต่ยังไม่ทราบว่าผลจะเป็นอย่างไร พรุ่งนี้เรามาติดตามกันอีกนะค่ะ
วันที่ 19 มิถุนายน 2558
วันนี้ มาแล้วน้องคนเก่งชอบเดินไปไหนมาไหนตามใจชอบ คุณครูก็พูดทบทวนกับน้องอีกรอบ "น้องจำได้ไหมค่ะ เมื่อวานคุณครูพาดูงู วันนี้น้องไม่ไปคนเดียวอีกนะค่ะ มันน่ากลัวใช่ไหม" คุณครูตั้งคำถามอีกรอบ น้องรีบตอบตามประสาเด็กฉลาด "วันนี้น้องไม่ไปหรอก" พอสักพักคุณครูเผลอ ไปแล้ว เดินดุ่มๆไปอีกแล้ว น้องเดินไปสนามเด็กเล่นคนเดียว คุณครูรีบวิ่งไปปราม พร้อมทวนคำถาม "น้องไม่กลัวงูแล้วหรือค่ะ ถ้าคุณครูไม่พามาน้องห้ามมาคนเดียวเด็ดขาดนะค่ะ สาเหตุที่คุณครูไม่อยากให้มา เห็นไหมลูกแดดร้อนก็ร้อน เดี๋ยวจะไม่สบาย พอไม่สบายก็ต้องไปหาหมอ ไปหาหมอต้องฉีดยาด้วย น้องกลัวหมอฉีดยาไหมลูก" น้องบอกว่ากลัว "เราไปร้องเพลงกันดีกว่านะค่ะ" คุณครูรู้ว่าน้องชอบการร้องเพลง การเต้น ต้องชักแม่น้ำทั้งห้าเลย เอาคุณครูเหนื่อยนะ
วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2558
บันทึกสะท้อนคิด วันที่ 8-12 มิถุนายน 2558
วันที่ 8 มิถุนายน 2558
วันนี้ ผู้ปกครองมาส่งลูกแล้วคุณครูพยายามรับเด็ก ผู้ปกครองไม่ยอมกลับบ้านซะที ปลอบใจลูกให้หยุดร้องไห้ แต่ก็ไม่เป็นผล คุณครูก็บอกว่าปล่อยเด็กเลยค่ะ คุณครูดูแลให้ ผู้ปกครองก็ยังไม่ยอมปล่อย คุณครูตัดสินใจแก้ปัญหาโดยการพูดว่า "ถ้าไม่ปล่อยเด็กให้คุณครู เด็กก็ไม่ติดคุณครูง่ายหรอกค่ะ" ผลที่เกิดขึ้น ผู้ปกครองก็ยอมปล่อยแบบไม่อยากปล่อย จากปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ สรุปได้ว่า "ผู้ปกครองเป็นห่วงลูก กลัวลูกร้องไห้ สงสารลูก ห่วง ไม่อยากห่าง แต่ก็อยากให้ลูกมาเรียน หัวอกคนเป็นแม่คุณครูก็เข้าใจดีค่ะ เพราะครูก็มีลูกเหมือนกัน" แต่เมื่อถึงเวลาก็อยากให้ผู้ปกครองปล่อยบ้าง เค้าคงไม่กล้าร้องไห้ทั้งวันหรอกค่ะ มันเหนื่อยนะ ผลที่เกิดขึ้นสุดท้ายคือ เด็กติดคุณครูง่ายและถ้าผู้ปกครองมาส่งในครั้งต่อไปเด็กก็จะไม่ร้องไห้ ยอมมาหาคุณครูแต่โดยดี
วันที่ 9 มิถุนายน 2558
วันนี้ ผู้ปกครองที่รักลูกมาก ห่วงลูกมาก มาส่งลูกแล้วแอบดูลูกอยู่ข้างรั้วหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เมื่อเด็กเห็นแม่ เด็กก็ร้องซิค่ะ ทั้งๆที่เด็กหยุดร้องแล้ว คุณครูก็อุตส่าห์บอกว่า "น้องเก่งแล้ว ไม่ร้องไห้แล้วหล่ะ ไม่ต้องห่วงคุณครูดูแลเด็กทุกคน" ยังไม่พอช่วงเด็กนอนมาแอบดูลูกอีก คุณครูบอกว่า "น้องหลับแล้วหล่ะ" ก็เดินเข้าไปดูลูกอีก คุณครูก็พูดอีกว่า "ไม่ต้องมารบกวนน้องหรอก น้องช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง คุณครูก็ดูแลเรื่องขับถ่ายให้อยู่นะ รอมารับกลับบ้านทีเดียวเลย" ปัญหานี้ ไม่รู้จะแก้ได้ไหม ต้องดูพรุ่งนี้อีกวันล่ะกันค่ะ
วันที่ 10 มิถุนายน 2558
วันนี้ ผู้ปกครองรายเดิม มาส่งลูกแล้วก็ปฏิบัติเช่นเดิม แต่เมื่อถึงตอนเที่ยงดีหน่อย ไม่มาหาลูกอีก แต่ก็มีปัญหาใหม่เพิ่มเติม คือผู้ปกครองที่ลูกร้องไห้ ลูกบอกไม่อยากมา ก็ไม่พามาส่ง พอนึกอยากมาก็พาลูกมาส่ง เพื่อนที่เขามาทุกวัน เขาหยุดร้องหมดแล้ว ตัวเองมาไม่สม่ำเสมอ มาก็ร้องไห้อยู่คนเดียว การแก้ปัญหา คุณครูก็จะพูดตรงๆ กับผู้ปกครอง พร้อมยกตัวอย่างเลยว่า "ให้มาส่งน้องทุกวัน เห็นไหมค่ะ น้องคนนี้ก็ร้องไห้อยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะแม่เด็กมาส่งทุกวัน เด็กก็ร้องทุกวัน ตอนนี้เด็กคนนี้หยุดร้องแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นผู้ปกครองต้องทำใจให้เข้มแข็งไว้นะค่ะ เด็กจะร้องอย่างน้อยก็ประมาณ 2 สัปดาห์ อย่างมากก็ประมาณ 1 เดือน" ผู้ปกครองนิ่งฟังแล้วพูดว่า "จะพยายามพาน้องมาส่งทุกวันค่ะ" ผลจะเป็นอย่างไรเรามาดูพรุ่งนี้กันอีกปัญหานึงที่ต้องติดตามค่ะ
วันที่ 11 มิถุนายน 2558
วันนี้ ผู้ปกครองที่มาส่งลูกไม่สม่ำเสมอ ก็มาส่งลูกตามที่คุณครูแนะนำ แล้วก็ปล่อยลูกให้คุณครูโดยไม่อิดออดเหมือนทุกวัน เยี่ยมเลยค่ะผู้ปกครองน่ารักมากๆ และปัญหาที่เกิดขึ้นวันนี้ภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กชอบตีเพื่อน เนื่องจากพ่อแม่ตามใจ น้องอยู่ใกล้เพื่อนคนไหนไม่ได้ หยิบจับของเล่นอะไรที่ขวางหน้า น้องจะตีหัวเพื่อน เพื่อนๆก็จะมาฟ้องคุณครู การแก้ปัญหา คุณครูก็ทดลองโดยเรียกน้องมาคุยกันแบบตัวต่อตัว สมมุติว่าชื่อน้องจันทร์เจ้า "น้องจันทร์เจ้าค่ะ หนูตีเพื่อนทำไม เอาอย่างนี้นะ คุณครูจะทดลองใช้ของเล่นที่หนูตีเพื่อน ตีน้องจันทร์เจ้านะค่ะ" พูดจบคุณครูก็ทดลองใช้ของเล่นที่น้องใช้ตีเพื่อน ตีน้องในน้ำหนักที่รู้สึกว่าเจ็บนิดนึง สุดท้ายน้องร้องไห้ คุณครูก็ปลอบพร้อมพูดว่า "น้องจันทร์เจ้าเจ็บหรือค่ะ เห็นไหมค่ะ ว่าการที่เราตีเพื่อน เพื่อนหนูก็เจ็บเหมือนกัน ครั้งหน้าไม่ทำเพื่อนแล้ว สัญญากับคุณครูนะค่ะ" น้องก็สัญญากับคุณครู เรามารอลุ้นกันดูในวันพรุ่งนี้นะค่ะ
วันที่ 12 มิถุนายน 2558
วันนี้ เมื่อน้องมาถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ทักทายกันเสร็จ คุณครูก็ทวบทวนข้อตกลงกับน้อง "น้องจันทร์เจ้า จำข้อตกลงของเราได้ไหมเอ่ย" ถ้าน้องไม่พูดคุณครูพูดต่อว่า "ถ้าวันนี้น้องจันทร์เจ้าตีเพื่อนอีก คุณครูจะทำโทษน้องจันทร์เจ้า ตกลงไหมค่ะ" น้องก็พยักหน้ารับตอบตกลง เด็กก็ย่อมเป็นเด็ก เมื่อน้องเล่นกับเพื่อนได้ไม่นาน ก็ตีเพื่อน คุณครูก็เลยคุยกับน้องอีกรอบ "ตกลงกันยังไงค่ะน้องจันทร์เจ้า ทำไมยังตีเพื่อนอีก คุณครูจะทำโทษแล้วนะ" เมื่อพูดเสร็จคุณครูก็ทำโทษโดยการตีฝ่ามือ แล้วพูดว่า "น้องตีเพื่อน ไม่น่ารักเลย จะเป็นเด็กนิสัยไม่ดี และไม่มีใครรักหนูด้วยนะ อยากให้เพื่อนรัก อยากให้คุณครูรัก อย่าตีเพื่อนอีกนะค่ะ" ก็ไม่รู้ว่าปัญหานี้จะได้ผลเช่นไร ต้องรอติดตาม
วันนี้ ผู้ปกครองมาส่งลูกแล้วคุณครูพยายามรับเด็ก ผู้ปกครองไม่ยอมกลับบ้านซะที ปลอบใจลูกให้หยุดร้องไห้ แต่ก็ไม่เป็นผล คุณครูก็บอกว่าปล่อยเด็กเลยค่ะ คุณครูดูแลให้ ผู้ปกครองก็ยังไม่ยอมปล่อย คุณครูตัดสินใจแก้ปัญหาโดยการพูดว่า "ถ้าไม่ปล่อยเด็กให้คุณครู เด็กก็ไม่ติดคุณครูง่ายหรอกค่ะ" ผลที่เกิดขึ้น ผู้ปกครองก็ยอมปล่อยแบบไม่อยากปล่อย จากปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ สรุปได้ว่า "ผู้ปกครองเป็นห่วงลูก กลัวลูกร้องไห้ สงสารลูก ห่วง ไม่อยากห่าง แต่ก็อยากให้ลูกมาเรียน หัวอกคนเป็นแม่คุณครูก็เข้าใจดีค่ะ เพราะครูก็มีลูกเหมือนกัน" แต่เมื่อถึงเวลาก็อยากให้ผู้ปกครองปล่อยบ้าง เค้าคงไม่กล้าร้องไห้ทั้งวันหรอกค่ะ มันเหนื่อยนะ ผลที่เกิดขึ้นสุดท้ายคือ เด็กติดคุณครูง่ายและถ้าผู้ปกครองมาส่งในครั้งต่อไปเด็กก็จะไม่ร้องไห้ ยอมมาหาคุณครูแต่โดยดี
วันที่ 9 มิถุนายน 2558
วันนี้ ผู้ปกครองที่รักลูกมาก ห่วงลูกมาก มาส่งลูกแล้วแอบดูลูกอยู่ข้างรั้วหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เมื่อเด็กเห็นแม่ เด็กก็ร้องซิค่ะ ทั้งๆที่เด็กหยุดร้องแล้ว คุณครูก็อุตส่าห์บอกว่า "น้องเก่งแล้ว ไม่ร้องไห้แล้วหล่ะ ไม่ต้องห่วงคุณครูดูแลเด็กทุกคน" ยังไม่พอช่วงเด็กนอนมาแอบดูลูกอีก คุณครูบอกว่า "น้องหลับแล้วหล่ะ" ก็เดินเข้าไปดูลูกอีก คุณครูก็พูดอีกว่า "ไม่ต้องมารบกวนน้องหรอก น้องช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง คุณครูก็ดูแลเรื่องขับถ่ายให้อยู่นะ รอมารับกลับบ้านทีเดียวเลย" ปัญหานี้ ไม่รู้จะแก้ได้ไหม ต้องดูพรุ่งนี้อีกวันล่ะกันค่ะ
วันที่ 10 มิถุนายน 2558
วันนี้ ผู้ปกครองรายเดิม มาส่งลูกแล้วก็ปฏิบัติเช่นเดิม แต่เมื่อถึงตอนเที่ยงดีหน่อย ไม่มาหาลูกอีก แต่ก็มีปัญหาใหม่เพิ่มเติม คือผู้ปกครองที่ลูกร้องไห้ ลูกบอกไม่อยากมา ก็ไม่พามาส่ง พอนึกอยากมาก็พาลูกมาส่ง เพื่อนที่เขามาทุกวัน เขาหยุดร้องหมดแล้ว ตัวเองมาไม่สม่ำเสมอ มาก็ร้องไห้อยู่คนเดียว การแก้ปัญหา คุณครูก็จะพูดตรงๆ กับผู้ปกครอง พร้อมยกตัวอย่างเลยว่า "ให้มาส่งน้องทุกวัน เห็นไหมค่ะ น้องคนนี้ก็ร้องไห้อยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะแม่เด็กมาส่งทุกวัน เด็กก็ร้องทุกวัน ตอนนี้เด็กคนนี้หยุดร้องแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นผู้ปกครองต้องทำใจให้เข้มแข็งไว้นะค่ะ เด็กจะร้องอย่างน้อยก็ประมาณ 2 สัปดาห์ อย่างมากก็ประมาณ 1 เดือน" ผู้ปกครองนิ่งฟังแล้วพูดว่า "จะพยายามพาน้องมาส่งทุกวันค่ะ" ผลจะเป็นอย่างไรเรามาดูพรุ่งนี้กันอีกปัญหานึงที่ต้องติดตามค่ะ
วันที่ 11 มิถุนายน 2558
วันนี้ ผู้ปกครองที่มาส่งลูกไม่สม่ำเสมอ ก็มาส่งลูกตามที่คุณครูแนะนำ แล้วก็ปล่อยลูกให้คุณครูโดยไม่อิดออดเหมือนทุกวัน เยี่ยมเลยค่ะผู้ปกครองน่ารักมากๆ และปัญหาที่เกิดขึ้นวันนี้ภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เด็กชอบตีเพื่อน เนื่องจากพ่อแม่ตามใจ น้องอยู่ใกล้เพื่อนคนไหนไม่ได้ หยิบจับของเล่นอะไรที่ขวางหน้า น้องจะตีหัวเพื่อน เพื่อนๆก็จะมาฟ้องคุณครู การแก้ปัญหา คุณครูก็ทดลองโดยเรียกน้องมาคุยกันแบบตัวต่อตัว สมมุติว่าชื่อน้องจันทร์เจ้า "น้องจันทร์เจ้าค่ะ หนูตีเพื่อนทำไม เอาอย่างนี้นะ คุณครูจะทดลองใช้ของเล่นที่หนูตีเพื่อน ตีน้องจันทร์เจ้านะค่ะ" พูดจบคุณครูก็ทดลองใช้ของเล่นที่น้องใช้ตีเพื่อน ตีน้องในน้ำหนักที่รู้สึกว่าเจ็บนิดนึง สุดท้ายน้องร้องไห้ คุณครูก็ปลอบพร้อมพูดว่า "น้องจันทร์เจ้าเจ็บหรือค่ะ เห็นไหมค่ะ ว่าการที่เราตีเพื่อน เพื่อนหนูก็เจ็บเหมือนกัน ครั้งหน้าไม่ทำเพื่อนแล้ว สัญญากับคุณครูนะค่ะ" น้องก็สัญญากับคุณครู เรามารอลุ้นกันดูในวันพรุ่งนี้นะค่ะ
วันที่ 12 มิถุนายน 2558
วันนี้ เมื่อน้องมาถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ทักทายกันเสร็จ คุณครูก็ทวบทวนข้อตกลงกับน้อง "น้องจันทร์เจ้า จำข้อตกลงของเราได้ไหมเอ่ย" ถ้าน้องไม่พูดคุณครูพูดต่อว่า "ถ้าวันนี้น้องจันทร์เจ้าตีเพื่อนอีก คุณครูจะทำโทษน้องจันทร์เจ้า ตกลงไหมค่ะ" น้องก็พยักหน้ารับตอบตกลง เด็กก็ย่อมเป็นเด็ก เมื่อน้องเล่นกับเพื่อนได้ไม่นาน ก็ตีเพื่อน คุณครูก็เลยคุยกับน้องอีกรอบ "ตกลงกันยังไงค่ะน้องจันทร์เจ้า ทำไมยังตีเพื่อนอีก คุณครูจะทำโทษแล้วนะ" เมื่อพูดเสร็จคุณครูก็ทำโทษโดยการตีฝ่ามือ แล้วพูดว่า "น้องตีเพื่อน ไม่น่ารักเลย จะเป็นเด็กนิสัยไม่ดี และไม่มีใครรักหนูด้วยนะ อยากให้เพื่อนรัก อยากให้คุณครูรัก อย่าตีเพื่อนอีกนะค่ะ" ก็ไม่รู้ว่าปัญหานี้จะได้ผลเช่นไร ต้องรอติดตาม
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)